รักไก่ชน

เปิดให้ใช้บริการแล้วกับเวปซื้อขายไก่ชน www.kaikeang.com ท่านสามารถสมัครเพื่อใช้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

การเพาะพันธุ์ไก่พม่าแบบลงเหล่า
สวัสดีครับพี่ๆน้องๆและเพื่อนๆ ชาวนิตยสารไก่ชนแม็กกาซีน ที่รักทุกๆท่านครับ วันนี้ผมตี๋ร่องฟอง จะมาพูดถึงเรื่องที่ทุกท่านยังสงสัยและจับต้นชนปลายไม่ถูกคือเรื่องการเพาะไก่ชนพม่า การที่เราจะเพาะพันธุ์ไก่ชนขึ้นมาในแต่ละครั้งนั้น เราทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการเพาะไก่ออกมาให้ได้ไก่เก่งๆตามที่ดั่งใจหวัง สำหรับไก่ชนพม่าการเพาะต่อยอดเพื่อขยายพันธุ์เพื่อที่เราจะได้ไก่พม่าที่มีลีลา ชั้นเชิง แบบครบเครื่อง สามารถที่จะตีกับไก่ได้ทุกเชิง ทุกสายพันธุ์ออกมาเล่นชน และ จำหน่าย หรือเพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาดนั้นๆ มันก็มีวิธีการที่จะพอทำอยู่ได้บ้าง เพราะทุกอย่างมันไม่เกินความพยายามของมนุษย์เราไปได้ สำหรับไก่ชนพม่าแล้วไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหน เหล่าใด ของประเทศไทย การที่เราอยากจะเพาะพันธุ์ให้ลูกไก่ออกมาเหมือนพ่อ หรือ ลีลา ชั้นเชิง ความแม่นอยู่ใกล้เคียงกับพ่อของมันมากที่สุดนั้นค่อนข้างยาก ยิ่งเป็นไก่พม่าที่เราซื้อมาเล่นเสร็จแล้วนำมาเพาะต่อยอด ยิ่งยากเข้าไปใหญ่เพราะเราไม่สามารถที่จะตามไปสืบต้นตระกูลของมันได้ว่าสายเลือดของม ันนั้นนิ่งมากน้อยแค่ไหน และ เราก็ไม่อาจที่จะตรวจดูเลือดของมันได้อีกว่ามันนิ่งกี่เปอร์เซ็นต์ แล้วคราวนี้เราเองจะทำอย่างไรถึงจะมีโอกาสเพาะลูกไก่ให้เกิดมาเป็นไก่พม่าตัวเก่งอย่ างที่เราตั้งใจได้
การเพาะพันธุ์ไก่ชนพม่าแบบลงเหล่า
การเพาะพันธุ์ไก่ชนพม่าแบบ “ลงเหล่า” นั้นจะเป็นการผสมพันธุ์ไก่ชนแบบในตระกูลเดียวเพื่อที่เราจะได้ไก่พม่าที่มีสายเลือดน ิ่ง ลีลา ชั้นเชิง ความแม่น ของพ่อแม่พันธุ์นั้นๆให้ตั้งต้นอยู่ในตัวลูกไก่ในแต่ละรุ่นให้เยอะที่สุดเป็นวิธีการ เพาะคล้ายกับ การเพาะแบบไลน์บรีด และ การเพาะไก่แบบลงเหล่านี้ยังคงรวมไปถึงการพัฒนาความนิ่งของลักษณะภายนอกของไก่ได้อีกเ ช่น ใบหน้า หงอนไก่ ความสูง ความหนา และ สีขนเป็นต้น โดยมีวิธีการเพาะดังต่อไปนี้

1. การเพาะลงเหล่าในครอบครัวเดียวกัน
การเพาะวิธีนี้เรียกอีกอย่างว่า “อินบรีด” เป็นการนำพ่อผสมกับลูกตัวเอง ลูกผสมกับแม่ ลูกผสมกับลูกกันเอง เพื่อต้องการคงสายพันธุ์ให้ได้เร็วที่สุดแต่ก็มีข้อเสียเสมือนดาบสองคมถ้าได้ลูกตัวด ี สีสัน หน้าตา ลักษณะคล้ายกับพ่อ ความเก่งกาจอาจจะเก่งเท่ากับพ่อ หรือ อาจจะเก่งมากกว่าตัวพ่อด้วยซ้ำ แต่ข้อเสียก็มีมากเช่น ลูกไก่ที่เกิดออกมามีลักษณะด้อย ตัวเล็ก แคระแกร็น พิการ เลี้ยงยาก ไม่ค่อยแข็งแรง ซึ่งแน่นอนอาจจะไม่คุ้มกับการลงทุน ท่านใดอยากลองก็สามารถลองทำดูได้ครับ

2. การเพาะลงเหล่าแบบต้นตระกูลเดียวกัน
การเพาะวิธีนี้เราจะต้องคัดเลือกพ่อพันธุ์มา 2ตัว ต้องมีลีลา ชั้นเชิง ความแม่นเหมือนกัน(ตามแบบที่เราชอบ) แต่มีข้อแม้ว่าพ่อพันธุ์ทั้ง 2ตัว ต้องเกิดมาจากพ่อพม่าตัวเดียวกัน นำมาผสมกับแม่พันธุ์ต่างเหล่า ต่างสายเลือด 2ตัว ส่วนเรื่องลีลาของแม่พันธุ์ก็ต้องคล้ายคลึงหรือสอดคล้องกับพ่อพันธุ์ที่เราเลือก ดังนั้นเราจะได้สายตั้งต้น 2สาย เมื่อเราเพาะได้ลูกไก่พม่าชุด F1 1ชุด 2สาย ให้นำลูกไก่พม่าชุดนี้มาไขว้สายกันโดยให้เลือกเอาตัวผู้หรือตัวเมียสายใดก็ได้ลีลาคล ้ายกับต้นตระกูลมาผสมกัน ลูกไก่ F2 ที่เกิดมาในชุดนี้สายเลือดจะเริ่มนิ่งแล้ว รับรองได้ว่าภายในเวลา 2ปี ไก่ของท่านก็จะเริ่ม
ลงเหล่า ภายในปีที่ 3 ท่านสามารถเอาตัวเมียชุดนี้ไปผสมกับพ่อไก่ตัวต้นตระกูลได้เลยถ้าตัวพ่อไก่ตัวนี้ไม่แ ก่ตายไปเสียก่อนรับรองได้เลยว่าเลือดนั้นนิ่งแน่นอนครับ

3. การเพาะลงเหล่าแบบ 2 ต้นตระกูล
การเพาะไก่พม่าวิธีนี้จะคล้ายกับการเพาะไก่แบบต้นตระกูลเดียวกัน แต่จะต่างกันตรงที่ พ่อพันธุ์ 2ตัว ที่เราคัดเลือกไว้ทำสายมาจากไก่ที่ต่างเหล่ากอ ต่างที่มากันและมีลีลา ชั้นเชิง ความแม่นที่เหมือนกัน เช่นพ่อพันธุ์สายที่ 1มาจากจังหวัดลำปาง ส่วนพ่อพันธุ์ตัวที่ 2 มาจากจังหวัดแพร่ แต่มีลีลาเหมือนกัน โดยจะมีวิธีการเพาะพันธุ์ทำสายเหมือนกับ ข้อ 2

ประโยชน์ของการเพาะไก่พม่าแบบลงเหล่า
การเพาะพันธุ์ไก่แบบลงเหล่าเป็นการทำสายพันธุ์ให้นิ่งทั้งตระกูล ไม่ว่าชุดลูก ชุดหลาน ชุดเหลน ของไก่เหล่านั้นจะไปไขว้สายกับไก่เหล่าใดๆทั่วประเทศ ลักษณะเด่นของลูกไก่พม่าที่ได้จากการเพาะส่วนใหญ่จะยังคงไว้ซึ่ง ลีลา ชั้นเชิง ความแม่นของเหล่าเก่าบรรพบุรุษไว้เกือบ 80 – 90% หรือแบบต้นตำหรับดั้งเดิมของเจ้าของเหล่าคนแรกที่เป็นคนทำสายนั่นเอง
คราวนี้เป็นยังไงบ้างครับ พี่ๆน้องๆและเพื่อนๆ ชาวไก่ชน พอจะได้ความรู้ที่สามารถนำไปปรับปรุงแก้ไข สายเลือดไก่ของท่านว่าขาดตกบกพร่องอย่างไร ตรงไหนไม่นิ่งก็ทำให้มันนิ่งเสีย เหมือนกับคำพูดโบราณ ที่คนเฒ่าคนแก่ หรือ นักเพาะมือทองมักจะพูดว่า “ไก่พ่อนี้ แม่นี้ ให้ลูกเก่งมาก” เพราะอะไรกันเล่า ก็เพราะว่าสายเลือดมัน “ลงเหล่า” นั่นเอง